
คุณรัตนพร ศรีเพ็ญ (ผู้มีปัญหามะเร็งเต้านมลามไปต่อมน้ำเหลือง)
เดือน ธ.ค. 53 ไปตรวจเมมโมแกรมจึงทราบว่าเป็นมะเร็งเต้านมขั้น 3B กำลังลามไปต่อมน้ำเหลืองต้นปี 54 เริ่มรักษาด้วยการให้เคโม 6 ครั้ง แล้วจึงผ่าตัดออกไป และต่อด้วยการให้เคโม 4 ครั้ง อีกทั้งฉายแสงอยู่ 1 เดือนจนเสร็จสิ้นการรักษาเมื่อเดือน ก.พ. 55 จนเดือนเม.ย. 55 มีเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกันมาก และเป็นมะเร็งเหมือนกันเคยใช้ *BIM มา 1 ปีกว่าแล้ว มาบอกเรื่อง *BIM ให้รู้จัก เราจึงมาไตร่ตรองดูพบว่า
- มีความน่าเชื่อถือของทีมนักวิจัย
- เพื่อนรุ่นพี่ที่แนะนำมาก็เป็นคนเชื่อถือได้
- มีโอกาสเข้ามาฟังการบรรยายจาก ศ.ดร.พิเชษฐ์อยู่หลายครั้งจนเข้าใจ
เริ่ม *BIM เช้า 2 ก่อนนอน 2 มานาน 6 เดือน สิ่งที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังจาก *BIM คือ
- ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านกลับมาก็ไมเหนื่อย ไม่อ่อนเพลีย หลับสนิทดีตื่นเช้ามาก็สดชื่น และเดินขึ้นบันไดสูงๆ ได้โดยไม่ต้องพักเหนื่อยครึ่งทางเหมือนแต่ก่อน
- เคยตึงตามข้อนิ้วมือแล้วรู้สึกเจ็บ กดตามข้อนิ้วก็จะเจ็บ และแดง ต้องพยายามกำมือ หลังจาก *BIM แล้วอาการค่อยๆ ดีขึ้นจนตอนนี้เรียกว่าหายไปเลยค่ะ
- คนรอบข้างต่างก็ทักว่าหน้าตาดูสดในกว่าเดิม ผิวใส ดูดีกว่าตอนที่ยังไม่เป็นมะเร็งเสียอีก ขนาดคุณหมอเองก็ยังทักด้วยค่ะ
- ผลตรวจไขมันโคเลสเตอรอลก็ลดลง จนแพทย์จะไม่ให้ยาลดไขมันแล้ว
ผลตรวจเรื่องตับ ไต และผลของการติดตามเรื่องมะเร็งก็ดีขึ้น เสียดายเหมือนกันที่ดิฉันรู้จัก *BIM ช้าไปหน่อยค่ะ หลังจากที่ตัวดิฉันเองมั่นใจ และประทับใจใน *BIM แล้วยังได้แนะนำคนอื่น ให้รู้จักกับ *BIM เช่นเดียวกัน
คุณบุญมา หมีคณะ (ผู้มีปัญหามะเร็งปอดทั้ง 2 ข้าง)
เคยสูบบุหรี่มานานกว่า 20 ปี เพิ่งหยุดได้ 2-3 เดือนก็เริ่มมีอาการเหนื่อยง่ายทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อยและ ไอ ลุกไปไหนไม่ไหว อีก 1 เดือนต่อมาไปเอกซเรย์พบก้อนเนื้อที่ปอดทั้ง 2 ข้าง ขนาด 7 ซม. และเป็นเนื้อร้ายอยู่ในขึ้นสุดท้ายแล้วผ่าตัดไม่ได้ เพราะเป็นที่ปอดทั้ง 2 ข้าง จึงต้องรับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ชุดแรกจำนวน 12 เข็ม แต่อาการยังไม่ดีขึ้น ยังคงอ่อนเพลีย ไม่มีแรง น้ำหนักลด อีก 1 เดือนต่อมาจึงเข้ารับเคมีบำบัด ชุดที่สอง ได้แค่ 5 เข็ม อาการกลับทรุดลง ปวดหน้าอกและภายในอกมากเกือบเสียชีวิต ไม่มีแรง ไม่รู้สึกตัว ลมหายใจเหลือน้อย เริ่มให้ออกซิเจนช่วยหายใจ และแพทย์ให้กลับบ้านและบอกลูกสาวให้ทำใจว่าพ่อจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน เพราะปอดของพ่อพังหมดแล้ว หลังจากกลับมานอนให้ออกซิเจนที่บ้าน 10 วัน อาการเริ่มดีขึ้นพอที่จะไปโรงพยาบาลรับยามาทานได้ต่อมาอีก 2-3 เดือนจึงเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในโครงการ การเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง (ระยะสุดท้าย) ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันที่สมดุล (Balancing Immunity – BIM) โดย *BIM ใน 1 เดือนแรก อากาดีขึ้น สังเกตตัวเองว่าแข็งแรงขึ้นพอครบ 2 เดือนอาการดีขึ้นเรื่องๆ ไม่เหนื่อยทำอะไรได้ปกติ มีไออยู่บ้างแต่ไม่มีอาการข้างเคียง ท้องไม่อืด ไม่อาเจียน 6 เดือน ผลเอกซเรย์ปอดดีขึ้น ก้อนเนื้อไม่ขยายตัว ผม *BIM มา 1ปี ทุกวันนี้ผมสบายดีทุกอย่าง
คุณสุเทพ แหวนทอง (ผู้มีปัญหามะเร็งต่อมลูกหมากลามไปที่กระดูกสันหลัง)
เริ่มจากร่างกายอ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อยครั้ง แต่กระปริดกระปรอย บางครั้งมีเลือดปนออกมา เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามข้อ ภายใน 2 เดือนน้ำหนักลดลงไป 20 กก. เมื่อต้นปี 54 ไปตรวจร่างกายหลายครั้งใช้เวลาอยู่ 2 เดือน จนกระทั่งพบว่าดัชนีบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) สูงมากอยู่ที่ 100 ng/ml (คนปกติต้องน้อยกว่า 4.0 ng/ml) จึงตัดเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากไปตรวจ ปรากฏว่าเป็นมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก แพทย์จึงทำการผ่าตัดมะเร็งออกไปเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 54 และเริ่มเดินไม่ได้ในเย็นวันนั้น ต่อมาตรวจ MRI พบว่ามะเร็งเริ่มลามไปกระดูกสันหลังและอาจเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ เพราะมะเร็งลามไปทำลายกระดูกสันหลังทำให้ทรุดไปทับเส้นประสาทที่หลัง หลังจากที่แผลผ่าตัดหายดีแล้ว เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 54 จึงทำการฉายแสงติดต่อกัน 10 วันระหว่างที่นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล เป็นอัมพาตครึ่งซีก ร่างกายท่อนล่างตั้งแต่เอวจนถึงปลายเท้าจะกระดิกกระเดี้ยวตัวไม่ได้ เดินไมได้เริ่ม *BIM ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. 54 พอเดือน มี.ค. 55 (ประมาณ 11 เดือน) ค่า PSA อยู่ที่ 0.82 ng/ml สุขภาพโดยรวมทั้งหมดดีขึ้นถึง 70% จากเดิมตอนเริ่มต้นที่เป็นศูนย์วันที่ 6 ส.ค. 55 (ประมาณ 16 เดือน) สุขภาพแข็งแรงดี คุณภาพชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมที่เริ่มรักษาครั้งแรกเดินไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองได้ครับ เข้าห้องน้ำ ทานอาหารเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นให้เดือดร้อนใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินระยะใกล้ได้ สามารถนั่งนานๆ ได้
คุณนงนุช ชายดวงคำ (ผู้มีปัญหามะเร็งลำไส้ใหญ่)
หลังจากผ่าตัดก้อนเนื้อไปแล้ว และอยู่ระหว่างทำเคมีบำบัด จะรู้สึกเพลียมากท้องเสีย และมีผื่นขึ้นคันไปหมดตั้งแต่ลำคอถึงใบหน้า พอดีน้องที่ทำงานแนะนำให้ชมรายการ BIM 100 ทางทรูวิชั่นช่อง 8 และดูข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ตจนตัดสินใจ *BIM เมื่อเดือนตุลาคม รู้สึกว่าจากที่เคยเพลียๆ ก็กระปรี้กระเปร่า มีกำลัง ร่างกายแข็งแรงขึ้น ท้องเสียน้อยลง พักแค่ 2-3 วัน ก็กลับไปทำงานต่อได้ จนคนที่หมู่บ้านยังแปลกใจ “ทำไมฟื้นตัวเร็วมาก” ทุกวันนี้ทั้งกำลังใจ และสุขภาพของดิฉันดีขึ้นด้วย *BIM ค่ะ
คุณวีระ ชุมสาย ณ อยุธยา (ผู้มีปัญหามะเร็งลำไส้ใหญ่ทวารหนัก)
เริ่มจากเป็นริดสีดวงทวารมาก่อนตั้งแต่วัยรุ่น เป็นๆ หายๆ มาตลอด จนเมื่อปี 54 เริ่มท้องเสีย ถ่ายเหลววันละ 5 ครั้ง นาน 1 สัปดาห์ ต่อมาถ่ายกะปริดกะปรอย พอลองเบ่งจะรู้สึกเสียวแปลบ ต่อมารู้สึกเจ็บมากขึ้นตรวจพบว่าเป็นระยะแรก จึงจำใจผ่าตัดเมื่อเดือนตุลาคม แต่ผลตรวจสุขภาพยังไม่ดี สูงกว่าเกณฑ์ปกติ ซึ่งอาจต้องทำเคมีบำบัด พอดีมีผู้แนะนำให้รู้จัก *BIM เป็นเวลา 3 เดือน ผลตรวจสุขภาพดีขึ้น ไม่ต้องทำเคมีบำบัด ผมแข็งแรงขึ้นมากก่อนผ่าตัดยึดพื้นได้วันละ 25-30 ครั้ง เดี๋ยวนี้ยึดพื้นได้ถึง 70-80 ครั้ง นอกจาก *BIM แล้ว ผมยังดุแลตัวเองด้วยการเลือกรับประทานอาหาร สวดมนต์นั่งสมาธิ และมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิตครับ
คุณจันทร์จิรา พลันเค็ทท์ (ผู้มีปัญหามะเร็งปากมดลูก ลามไปต่อมน้ำเหลือง และปอด)
ไปตรวจสุขภาพประจำปี 2550 ถึงพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก แพทย์รักษาด้วยการให้เคมีบำบัด 6 ครั้ง ฉายรังสี 33 ครั้ง ใส่แร่ 4 ครั้ง และตัดห่วง (ปาดเอาเนื้อบางส่วนออก) จนตรวจไม่พบมะเร็งแล้วกระทั่งเดือน ธ.ค. 54 รู้สึกปวดแถวๆ ซี่โครงซ้าย ไปพบแพทย์ครั้งแรกตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ พอครั้งที่ 2 ไปตรวจด้วย MRI พบว่ามีจุดดำที่ปอดข้างซ้ายขนาด 3 ซม. และต่อมน้ำเหลือง 7 แห่ง แสดงว่ามีมะเร็งลามไปต่อมน้ำเหลืองและปอด แพทย์วางแผนการรักษามะเร็งครั้งที่ 2 ด้วยการฉายรังสี 33 ครั้ง แต่ฉายได้เพียงแค่ 10 ครั้งก็มีอาการข้างเคียงเวียนศีรษะคลื่นไส้ อาเจียนทุกวัน จึงตัดสินใจหยุดฉายรังสี แต่ทาง ร.พ. ก็โทรมาตามให้ไปฉายรังสีต่อให้ครบ เพราะมะเร็งอาจจะกระจายจนเสียชีวิตได้ แพทย์จึงวางแผนทำการรักษาใหม่โดยการนอนให้เคมีบำบัดที่ ร.พ. 6 ครั้ง พอทำไปได้ 3 ครั้ง ก็ทนอาการข้างเคียงไม่ไหว ทั้งผมขาด ผมร่วงจนศีรษะล้านเลี่ยนไม่เหลือตอของเส้นผม ไม่มีแรง คลื่นไส้ ทานข้าวไม่ได้ ร่างกายซูบผอม น้ำหนักตัวอยู่ที่ 46-47 กก. อาศัยค่อยๆ ดูด และกลืนกล้วยน้ำว้าเป็นอาหาร รู้สึกร้อนเหมือนมีไฟมาจี้ที่กลางลิ้น ต้องทานไอศกรีมวันละ 5-6 แท่ง และเอาน้ำแข็งมาถูที่ลิ้นที่คลายความร้อนที่ลิ้น อมน้ำเย็นแล้วบ้วนทิ้งบ้าง นอนบนเตียงจะรู้สึกเวียนศีรษะ และอาเจียนทำให้ต้องนอนลงกับพื้นแทน แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับจากอาการข้างเคียงต่างๆ เหล่านี้ ทำให้กลัวว่าจะเสียชีวิตก่อนที่จะรักษาได้ครบตามแผนที่วางเอาไว้ จึงตัดสินใจหยุดการทำเคมีบำบัดเมื่อเดือน มิ.ย.ปีนี้ และรู้จัก *BIM จากคุณลุงในหมู่บ้านเมื่อเดือน ส.ค. โดยดื่มน้ำมังคุด 1 ซองตอนเช้า และ *BIM สีเขียวกลางวัน 2 เย็น 2 ก่อนนอน 2 อยู่ 3 สัปดาห์ ผู้คนรอบข้างเริ่มมาทัก “ว่าไปทำหน้ามาหรือ” ดูเปล่งปลั่งขึ้น ผิวดี เรารู้สึกว่าข้างในร่างกายดีขึ้นมาก เคยไปขับรถทำธุระออกจากบ้านตั้งแต่ตี 2 กว่าจะได้กลับเข้าบ้านก็ 2 ทุ่ม ทั้งวันไม่ได้งีบหลับเลยก็ยังไม่เพลีย พอใครๆ เห็นเราแข็งแรงขึ้นดูเปลี่ยนไปก็มาถามว่าไปทำอะไรมา แนนจึงแนะนำคนอื่นๆ ให้รู้จัก *BIM บ้าง เช่น คนที่มีปัญหามะเร็งปากมดลูก,SLE, ภูมิแพ้, เบาหวาน, แม่ที่เป็นข้อเข่า และสามีชาแคนาดาที่เป็นหัวใจ ปัจจุบัน *BIM เกือบ 3 เดือนแล้ว สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี มีความประทับใจ และมั่นใจ *BIM มากค่ะ
คุณสุภัสสรา เอมเอก (ผู้มีปัญหามะเร็งต่อมน้ำเหลืองลามไปที่กระดูกขา)
เป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองระยะ 4 ได้ รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด 8 คอร์ส ต่อมาลุกลามไปที่กระดูกขาขวา ทำให้กระดูกขาหัก , มีรอยดำที่กระดูกกะโหลกศีรษะ, มีก้อนที่ไตด้วย แต่ไม่ได้ตัดชิ้นเนื้อตรวจจึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใช่เป็นก้อนมะเร็งหรือไม่ แต่ก้อนนี้หายไปหลังให้เคมีบำบัด ต่อมารักษาอาการที่ขาขวาโดยครั้งที่หนึ่งด้วยการผ่าตัดใสเหล็กที่ขาขวา และฉายแสงตรงบริเวณที่ผ่าตัดขาเพื่อกระตุ้นให้กระดูกงอก แต่กลับไม่งอก ยังคงมีช่องว่างของกระดูกอยู่ ต่อมาครั้งที่สองจึงผ่าตัดกระดูกขาขวาอีกครั้งเพื่อปลูกถ่ายกระดูก แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ คือกระดูกที่มาปลูกใหม่ยังไม่ติดกัน จึงมีอาการปวดขาขวา ยิ่งลงน้ำหนักตอนเดินยิ่งปวด ร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย เดินโดยอาศัยไม้ค้ำยันและมีความวิตกกังวลอยู่ 2 เรื่องคือ
- แม้แพทย์ระบุว่ามีโอกาสหาย 90% แต่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ถึง 50%
- แพทย์กำลังวางแผนที่จะผ่าตัดที่ขาซ้ำอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อที่จะใส่วัสดุประเภทซีเมนต์เพื่อปิดช่องว่างของกระดูก
ตั้งแต่ ต.ค. 53 – ก.พ. 54 ดูแลตัวเองตามแนวการดีทอกส์ด้วยอาหาร และนั่งสมาธิ จนมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่เป็นมะเร็งตับที่ *BIM มาแล้วผลตรวจสุขภาพดีขึ้นเรื่องๆ มาแนะนำให้รู้จักกับ *BIM ได้ 2 สัปดาห์ สังเกตเห็นว่าผิวพรรณมีการเปลี่ยนแปลง รู้สึกสดชื่น ไม่เพลีย นอนหลับดีเมื่อครบ 3 เดือน เอกซเรย์กระดูกขาตรงที่มีช่องว่าง แสดงว่าเริ่มมีกระดูกงอก พอ 6 เดือน เอกซเรย์กระดูกขา กระดูกงอกเพิ่มกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ครับ 1 ปี ผลเอกซเรย์กระดูกขา แพทย์ระบุว่ากระดูกติดดีแล้ว ไม่มีช่องว่าง ซึ่งก็หมายความว่าเซลล์มะเร็งที่กระดูกถูกยับยั้งไปแล้ว กระดูกจึงสามารถสร้างเชื่อมติดกันได้ ต่อไปแพทย์จะนัดติดตามกระดูกปีละครั้ง และน้ำหนักเพิ่มขึ้น 3 กก. อาการปวดขาลดลง เดินได้เกือบเหมือนเดิม ไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้ว แม้ว่าเดินกะเผลกอยู่บ้าง มีปวดขาบ้างคงเกิดจากโลหะที่อยู่ข้างในอาจเสียดสี หรือทับเนื้ออยู่บ้าง แต่ก็พอใจแล้วค่ะ ตลอดเวลาที่ *BIM ไม่มีผลข้างเคียงอย่างใดรู้สึกร่างกายแข็งแรงขึ้น สดชื่น ผิวพรรณดีขึ้นมีน้ำมีนวล ดุไม่เหมือนคนป่วยสักเท่าไหร่ ไม่มีความวิตกว่าโรคจะกลับมาเป็นซ้ำเพราะเชื่อมั่นว่า *BIM ช่วยภูมิคุ้มกันให้สมดุล ถ้าตอนที่เริ่มรักษาเป็นศูนย์ ในวันที่ก็ถือว่าดีขึ้นเป็น 98% ค่ะ