มังคุด ราชินีแห่งผลไม้ไทย กำลังถูกจับตามองจากคนทั้งโลกในทันทีที่คณะนักวิทยศาสตร์ไทย ประกาศถึงการค้นพบสูตรธรรมชาติจากมังคุด ระบุชัดถึงผลการทดลองในห้องแล็บ ว่า สารสกัดจากมังคุดช่วยสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด Th1 และ Th17 มีฤทธิ์ช่วยกำจัด และป้องกันการก่อเกิดเซลล์มะเร็งเกือบทุกชนิดได้ แถม APCO Essence ยังสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด Treg ที่ช่วยจัดระเบียบให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่สมดุล  ขณะที่ผลทดลองกับผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย พบว่า คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  โดยเป็นผลงานของ ศูนย์วิจัย และพัฒนามังคุดไทย, APCO และนักวิจัยจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดงานแถลงข่าว  "ผลงานวิจัย นักวิทยาศาสตร์ไทย ก้าวไกลระดับโลก" ที่โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ  หวังเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจากหลากหลายปัจจัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ศาสตรจารย์ ดร.พิเชษฐ์  วิริยะจิตรา  หัวหน้าศูนย์วิจัย และพัฒนามังคุดไทย ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียนไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า งานวิจัยดังกล่าวเป็นการต่อยอดนำเอาคุณประโยชน์ของสารสกัด GM-1 ซึ่งได้จากมังคุด ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะราคาแพง ลดการอักเสบได้เป็น 3 เท่าของแอสไพริน มีสารต้นอนุูลอิสระมากกว่าวิตามินอี และสามารถขจัดเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพัฒนาเป็นงานวิจัย APCO (Balancing IMmunity - BIM) ที่ผสมรวมกับสารสกัดจากฝรั่ง งาดำ ถั่วเหลือง และใบบัวบก จนได้อาหารเสริมชนิดที่ดี ช่วยปรับระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สมดุล  ผลทดลองในห้องแล็บของศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุชัดว่า งานวิจัย APCO BIM ที่ผสมสารสกัด GM-1 จากมังคุดที่ศูนย์วิจัย และพัฒนามังคุดไทยคิดค้นขึ้น ช่วยสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด Th1 ที่ทำหน้าที่สร้างภูมิต้านทานในการกำจัดโรค อาทิ เซลล์มะเร็ง  เชื้อรา  แบคทีเรีย  รวมถึงไวรัส  และมเม็ดเลือดขาวชนิด Th17  ภูมิคุ้มกันที่ช่วยป้องกันเชื้อโรค หรือแม้แต่การเกิดเซลล์มะเร็ง โดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ

ศาสตรจารย์ ดร.พิเชษฐ์  กล่าวต่อว่า ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วโลกได้เพียรพยายามเพาะเม็ดเลือดขาวชนิด Th17 เพื่อนำไปใช้ในการรักษามะเร็งมาตั้งแต่ปี 2550 แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน และปลอดภัย  โดยสามารถทำให้ผู้ป่วยในต่างประเทศหายจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้จริง 2 ใน 3 ราย  ส่วนอีก 1 ราย ที่เหลือ แค่มีอาการที่ดีขึ้น แต่ทว่า ในอีกหลาย ๆ กรณีที่เกิดผลข้างเคียงจนนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ป่วย แต่นักวิทยาศาสตร์ไทยกลับวิจัย และทดลองจนประสบความสำเร็จ ในการสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด Th17 ขึ้นในร่างกายได้อย่างปลอดภัย โดยใช้สารสกัดจากมังคุด และธัญพืชของไทย

บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) จึงได้สนับสนุนให้มีการนำงานวิจัย APCO BIM ทำการทดสอบกับผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาโดยเคมีบำบัดมาตรฐานที่ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยการควบคุมของ ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงสุมิตรา  ทองประเสริฐ  โดยให้ผู้ป่วยบริโภคควบคู่กับน้ำมังคุดเข้มข้น 80% ที่สกัดจากเนื้อ และเมล็ด  ซึ่งมีสารไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด Treg เพิ่มขึ้น เพื่อไปคานการเพิ่มเม็ดเลือดขาวชนิด Th1 และ Th17  ให้อยู่ในระดับสมดุล พบว่าทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ถือเป็นนิมิตหมายอันดีถึงผู้ป่ยโรคมะเร็ง ที่จะมีอีกทางเลือดหนึ่งช่วยเสริมร่างกายให้แข็งแรง และพร้อมต่อสู้กับโรคร้ายได้

จากการทดลองในระดับเซลล์นำไปสู่การทดลองในผู้ป่วยเพื่อขยายผล  ซึ่งดูเหมือนว่า มังคุดจะเป็นความหวังใหม่ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ  โดยเฉพาะการทดลองกับผู้ป่วยโรคมะเร็งหลากหลายชนิด  ซึ่งได้ผลเป็นที่่น่าพอใจ โดยสามารถลดระดับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด และช่วยให้ค่าบ่งชี้มะเร็งในร่างกายลดลง  หลังจากได้รับสารสกัดมังคุดอย่างต่อเนื่องระยะเวลาหนึ่ง

คำตอบจากนักวิทย์

"เรารู้ว่า สารสกัดจากมังคุดมีความเป็นไปได้ที่จะรักษาโรคมะเร็งจากการเพิ่มขึ้นของเซลล์เม็ดเลือดขาว และจัดการกับเซลล์มะเร็งไม่ให้เจริญเติบโต  แต่ไม่มีใครบอกได้ว่ากลไกที่เกิดขึ้นในระดับเซลล์เป็นอย่างไร"  ดร.วัชระ  กสินฤกษ์  นักวิจัยจากศูนย์วิจัย เทคโนโลยีชีวการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าว

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันวิทยา  ดร.วัชระ  ได้เดินหน้าศึกษาผลการสร้างภูมิคุ้มกันของสารธรรมชาติสูตร BIM ที่มีต่อเซลล์เม็ดเลือดขาวในหลอดทดลอง  จากการทดสอบ พบว่า งานวิจัย APCO BIM  ชนิดแคปซูล สามาถกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Th1 และ Th17 และ APCO Essence  เพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Treg

"แม้ว่าผลของการวิจัยจะไม่ได้ชี้ชัดว่า ผู้ป่วยมะเร็งจะหายขาดจากโรคมะเร็งอย่างถาวร แต่สารสกัดจากมังคุดสามารถช่วยให้ผู้ป่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี  รับประทานอาหารได้ดีขึ้น  น้ำหนักตัวคงที่  ระดับโปรตีนในเลือดไม่ลดลง  ในแง่ของการรอดชีพ ก็มีผู้ป่วยอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งรอดชีพยาวกว่าที่เราคาดการณ์ไว้  มีผู้ป่วยรายหนึ่งสามารถอยู่ได้เกือบ 20 เดือน  ขณะนี้ก็ยังรับประทานผลิตภัณฑ์อยู่อย่างต่อเนื่อง" ศาสตราจารย์ แทพย์หญิง สุมิตรา  ทองประเสริฐ  จากภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวย้ำ